Maestro จะใช้ป้อมปืนควบคุมระยะไกลเพื่อยิงเลเซอร์พลังงานสูง เมื่อติดเข้ากับพื้นหรือกำแพงแล้ว Maestro จะสามารถสอดแนมได้จากระยะไกลและคอยสอดส่องในพื้นที่ผ่านกล้องที่ติดตั้งไว้ เมื่อกล้องเปิดออกเพื่อยิงเลเซอร์นั้นแกนกลางก็จะโดนโจมตีได้ หากไม่เช่นนั้นแล้วตัวป้อมปืนจะไม่ได้รับความเสียหายจากกระสุนหรือการโจมตีประชิดเลย สุดท้ายก็คือ Evil Eye จะสามารถมองผ่านควันได้
ALDA 5.56
ปืนกลเบา
ACS12
ปืนลูกซอง
Keratos .357
ปืนพก
Bailiff 410
ปืนพก
ลวดหนาม
ระเบิดอิมแพ็กต์
เครื่องมือปิดกั้นการสังเกตการณ์
Evil Eye
“ผมเคยเล่าตอนที่เรากระโดดจากต้นไม้ลงสู่หนองน้ำของป่าคองโกในตอนกลางคืนหรือเปล่า ยังเหรอ เรื่องเด็ดเลยล่ะ”
Adriano "Maestro" Martello ลูกชายคนโตในครอบครัวที่มีลูกแปดคน เขาเติบโตมาในโรมแต่เข้าเรียนที่ Military Academy of Modena ตอนอายุ 18 ปี เขาเข้าร่วม Carabinieri และเข้ารับตำแหน่งเป็นพลร่มสำรวจในกองทหารพลร่มที่ 1 ซึ่งมีชื่อว่า Tuscania ภายหลังจากการออกเดินทางไปในที่ต่างๆ มากมายซึ่งทำให้เขาได้รับเหรียญเงินและทองแดงจาก Military Valor มาครอง Martello ก็มีคุณสมบัติในการเข้าร่วม Gruppo di Intervento Speciale (กลุ่มแทรกแซงพิเศษหรือ G.I.S.) และเข้าร่วมในปฏิบัติการร่วมที่อิรักซึ่งส่งผลให้เขาได้แผลเป็นบนใบหน้ามาหลายแผลจากระเบิดแสวงเครื่องข้างถนน จากนั้นเขาได้มีส่วนร่วมในการต่อต้านภัยคุกคามในอิตาลีประเทศบ้านเกิดบ่อยครั้ง หลังจากนั้นเขาก็ได้กลายเป็นผู้ฝึกสอนซึ่งช่วยฝึกอบรมหน่วยระดับ 3 ในกองทัพอิตาลี
หลัง Martello จบผลัด เขาก็ผันตัวเป็นผู้ให้คำปรึกษาส่วนตัว และหลักสูตรของเขาก็กลายมาเป็นหลักสูตรการฝึกแบบเข้มข้นสำหรับเจ้าหน้าที่ซึ่งสอนเทคนิคขั้นสูงให้แก่หน่วยระดับ 3 และ 2 รวมทั้งบริษัททหารเอกชนที่ได้รับความนิยมสูงอย่างรวดเร็ว จากนั้น Tuscania ก็โน้มน้าวให้ Martello กลับเข้าไปร่วมงานกับพวกเขาอีกครั้งเพื่ออัปเกรดหน่วยของพวกเขาเป็นประเภทกองกำลังพิเศษระดับ 2 ซึ่งทำให้เขาได้เข้าร่วม Rainbow ในฐานะตัวแทนหน่วยอิตาลี
ฉันไม่สงสัยเลยว่าผู้ชำนาญการ Adriano Martello (หรือในชื่อ Maestro) นั้นเกิดมาเพื่อเป็นผู้นำโดยแท้ เขาได้รับฉายาว่า Maestro เพราะความตั้งใจที่จะเสียสละก่อนใครเพื่อที่จะช่วยเหลือทหารคนอื่นๆ ในระหว่างการฝึกขั้นพื้นฐาน และขณะที่ในบันทึกระบุไว้ว่าทหารบางนายจะไม่ชอบการช่วยเหลือคนอื่น ฉันคิดว่ามันช่วยทำให้วิธีการสอนของผู้ชำนาญการ Martello ดียิ่งขึ้น [...] ฉันได้ตรวจสอบบันทึกในโรงเรียนว่าเขาเคยทะเลาะกับใครบ้างหรือไม่ และฉันเชื่อว่าเขาทะเลาะกับคนอื่นเพื่อช่วยพี่น้องของตนเอง [...]
เขาเริ่มเข้าสู่กองทัพเพื่อช่วยลดภาระทางการเงินของพ่อแม่ในการต้องเลี้ยงดูลูกๆ ทั้งแปดคน และเขาก็นำเอาความรับผิดชอบนั้นมาใช้ในหน่วยด้วย เขาใส่ใจความรู้สึกของผู้คนที่ร่วมปฏิบัติหน้าที่ด้วยและสนใจที่จะดึงเอาศักยภาพที่ดีที่สุดของแต่ละคนออกมา แม้ว่าจะโวยวายอย่างเฮฮาไปบ้างและก็อาจจะหยาบคายเกินกว่าที่เจ้าหน้าที่ผู้สงบเสงี่ยมของเราเคยคุ้นชิน ฉันคิดว่าผู้ชำนาญการ Martello ชอบสบถไปอย่างนั้น ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่าจริงๆ แล้วเขาก็สอนเรื่องราวดีๆ ด้วยการเล่าเรื่องเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย เขาเป็นคนแสดงออกด้วยความจริงใจซึ่งนับเป็นส่วนหนึ่งในเสน่ห์ของเขาที่ปฏิเสธไม่ได้เพราะมันแสดงออกมาอย่างซื่อตรงจริงๆ [...]
สักวันหนึ่งผู้ชำนาญการ Martello จะเป็นผู้บังคับบัญชาด้านยุทธวิธีการควบคุมที่ดีเยี่ยมได้ แต่จุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดของเขาคือความรู้สึกอยากที่จะออกเดินทาง [...] เขาชอบความท้าทายจนก่อให้เกิดความเสียหายต่อตนเอง เมื่อเขาพิชิตเป้าหมายหนึ่งได้แล้ว ก็เป็นเรื่องยากที่จะทำให้เขาปักหลักอยู่ได้ เขามีสายสัมพันธ์ส่วนตัวกับผู้ชำนาญการ Seamus "Sledge" Cowden (ปฏิบัติการร่วมในอิรักก่อนที่จะมีการกำหนดมาตราที่ 5) มากพอถึงขนาดที่ฉันรู้ว่าเขาได้เชิญผู้ชำนาญการ Cowden ไปเยี่ยมครอบครัวของเขาเมื่ออยู่ในช่วงพักการปฏิบัติหน้าที่ แต่กระนั้นก็ตามฉันยังไม่แน่ใจว่ามันจะมากพอที่จะทำให้เขาคงอยู่กับปฏิบัติการ Rainbow หรือไม่ สายสัมพันธ์ของเขากับผู้ชำนาญการ Aria "Alibi" de Luca ก็นับเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ทั้งคู่ทำงานกันอย่างใกล้ชิดระหว่างปฏิบัติการ Spider Wasp ซึ่งหน่วยของผู้ชำนาญการ Martello โค่นองค์กรอาชญากรรมที่เป็นเป้าหมายได้เพราะข้อมูลจากผู้ชำนาญการ de Luca ไม่ว่าพวกเขาจะมีความหลังอย่างไรต่อกันก็ยังเป็นปริศนาสำหรับฉันอยู่… แค่ในตอนนี้ [...]
ฉันคาดการณ์ว่าเราจะต้องมีสิ่งล่อใจเพื่อที่จะให้ผู้บัญชาการ Martello ยังคงทุ่มเททำงานต่อไป ซึ่งก็คือการมอบความท้าทายที่มีความเป็นไปได้ว่าเขาจะล้มเหลว และนี่ก็เป็นเหตุผลที่ฉันแนะนำให้ผู้ชำนาญการ Martello ก้าวเข้าสู่เวทีชกมวยพร้อมกับผู้ชำนาญการ James "Smoke" Porter เป็นต้น เราต้องจับเขามาประจันหน้ากับนักชกที่ได้รับการฝึกฝนและมีทักษะมากกว่า จากการบันทึกของฉัน ผู้ชำนาญการ Martello เติบโตมาในละแวกย่านที่ผู้คนมีรายได้ต่ำแถบเมือง Lungotevere ของโรม และที่นั่นเขาได้เป็นเพื่อนกับเด็กๆ ยิปซีมากมาย เขาได้คุยโวเกี่ยวกับเรื่องการชกมวยกับพวกยิปซีซึ่งถือเป็นประเพณีสำคัญของคนกลุ่มนี้ และฉันเชื่อว่าการฝึกฝนเขาร่วมกับ Porter จะทำให้เขาได้มีความทรงจำดีๆ ซึ่งเชื่อมโยงวัยเด็กของเขาเข้ากับ Rainbow [...]
อีกทางหนึ่งคือการจัดแจงให้ผู้ชำนาญการ Mike "Thatcher" Baker มีความสนใจส่วนตัวในพัฒนาการของ Martello นอกจากนี้ Martello ยังมีความนับถือในตัวผู้ชำนาญการ Baker อย่างแท้จริง มากถึงขนาดที่ทำให้เขาไม่ปริปากเมื่ออยู่กับเหล่าเจ้าหน้าผ่านศึกจาก SAS ความเคารพที่มีนี้อาจก่อให้เกิดสายสัมพันธ์อันแข็งแกร่งมากพอที่จะทำให้ผู้ชำนาญการ Martello ทุ่มเททำงานในโครงการ Rainbow ต่อไป
-- ดร. Harishva "Harry" Pandey ผู้อำนวยการของ Rainbow