ระบบจัดอันดับใหม่

ก่อนหน้านี้ ระบบจัดอันดับเป็นระบบของทักษะล้วน ๆ ซึ่งมีการให้คะแนนเพียงอย่างเดียวคือ MMR ที่ใช้สำหรับสกิลและอันดับ การเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เราต้องทำในระบบจัดอันดับนั้นส่งผลต่อสกิลและการจับคู่แมตช์

เรากำลังจะเปลี่ยนแปลงอะไร?

เรากำลังแยกสิ่งที่เรารู้จักกันในชื่อ MMR ออกเป็นสกิลและอันดับ

สกิล

สกิลของคุณ (ซึ่งก่อนหน้านี้เรียกว่า MMR) จะเป็นค่าที่ซ่อนอยู่ซึ่งจะใช้สำหรับการจับคู่แมตช์

สกิลของคุณแสดงถึงความสามารถในการชนะในเกม การเปรียบเทียบสกิลของสองทีมทำให้คุณเห็นถึงความเป็นไปได้ที่ทีมหนึ่งจะชนะอีกทีมหนึ่ง ยิ่งความแตกต่างสูงเท่าไร ทีมใดทีมหนึ่งก็จะมีโอกาสชนะมากขึ้นเท่านั้น เมื่อสองทีมที่มีระดับสกิลเท่ากันมาจับคู่แมตช์กัน ทั้งสองทีมมีโอกาสชนะเท่ากัน อัลกอริทึมที่ใช้ใน Rainbow Six Siege กำหนดค่าสองค่าให้กับผู้เล่นแต่ละคน: ค่าประมาณของสกิล (μ) และค่าความไม่แน่นอนของค่าประมาณนี้ (σ)

ความไม่แน่นอน

การประเมินสกิลของคุณคือความน่าจะเป็น โดยทั่วไปแล้ว ยิ่งคุณเล่นเกมมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งมีข้อมูลเกี่ยวกับคุณมากเท่านั้น และทำให้เรามั่นใจมากขึ้นเกี่ยวกับการประเมินนี้ ความเชื่อมั่นนี้แสดงด้วยค่าความไม่แน่นอนซิกม่า (σ) ความไม่แน่นอนยิ่งต่ำ ความเชื่อมั่นยิ่งสูง

การอัปเดตสกิล

การอัปเดตสกิลของคุณในฐานะผู้เล่นไม่ได้เปลี่ยนแปลงด้วยระบบใหม่นี้ หมายความว่าสกิลจะถูกอัปเดตตามผลการแข่งขันของคุณเท่านั้น หากผลลัพธ์นี้เป็นไปอย่างไม่คาดคิด (เช่น คุณแพ้ผู้เล่นที่มีสกิลต่ำกว่าทีมของคุณ) การอัปเดตสกิลจะมีมากขึ้น และในทางกลับกัน นอกจากนั้น ยิ่งค่าความเชื่อมั่นของสกิลของคุณมากเท่าไหร่ (เช่น หาก σ ของคุณต่ำ) การอัปเดตก็จะยิ่งน้อยลงเท่านั้น

ยกตัวอย่างง่าย ๆ ที่มีผู้เล่นเพียงสองคน: Hibana vs Pulse ค่าในตัวอย่างนี้ไม่ได้สะท้อนถึงการอัปเดตจริงที่จะเกิดขึ้นกับระบบของเรา แต่ควรช่วยให้คุณเข้าใจสถานการณ์ Hibana เป็นผู้เล่นระดับโกลด์ (μ ≈ 29) และเล่นในระดับนั้นมาระยะหนึ่งแล้ว อันดับของ Hibana มีค่าความไม่แน่นอนต่ำด้วย ดังนั้น σ ≈ 3 Hibana เผชิญหน้ากับ Pulse (ผู้เล่นระดับคอปเปอร์ แต่เขามีหัวใจมากมาย) และแพ้ เนื่องจากค่าความไม่แน่นอนต่ำ เป็นไปได้ว่า Hibana เพิ่งจะเล่นเกมได้ไม่ดี ดังนั้นระดับทักษะของเธอจึงลดลง ส่งผลให้ μ ≈ 28 นี่เป็นเพราะระบบคำนึงถึงอันดับของศัตรูที่คุณพ่ายแพ้ให้ด้วย ถ้า Hibana แพ้ให้กับคนที่อยู่ระดับโกลด์ การปรับจะเข้าใกล้ μ ≈ 28.5 การแพ้ให้กับผู้เล่นไดมอนด์ จะส่งผลให้การเปลี่ยนแปลง μ ≈ 28.9

ดังที่กล่าวไว้ว่า Pulse ยังค่อนข้างใหม่สำหรับเกม และระบบของเรากำลังพยายามกำหนดตำแหน่งที่เขาควรถูกวาง (μ ≈ 17 และ σ ≈ 6) ด้วยความเก่งกาจของ Tachanka ทำให้ Pulse ชนะการแข่งขัน ดังนั้นเราจะเพิ่มระดับสกิลของเขาเป็น 20 ชัยชนะของเขาที่มีต่อ Hibana ช่วยให้เราตัดสินได้ว่าเขาอาจจะเล่นได้ดีขึ้น ดังนั้นค่าความไม่แน่นอนของเขาจึงตกลงไปเล็กน้อย (σ ≈ 5.5) การให้คะแนนระดับสกิลที่เพิ่มขึ้นอย่างมากเป็นผลมาจากการที่ Pulse เป็นผู้เล่นที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก และความเชื่อมั่นในตำแหน่งของ Hibana

อันดับ

ในทางกลับกัน อันดับจะใช้สำหรับความคืบหน้าผ่านการไต่อันดับการแข่งขัน อันดับจะอัปเดตหลังการแข่งขันทุกครั้งผ่านคะแนนอันดับ (RANK POINTS) การทำงานของมันคือจำนวนคะแนนอันดับ (RP) จาการที่คุณชนะหรือแพ้หลังจากการแข่งขันแต่ละครั้งจะเป็นสัดส่วนกับความแตกต่างระหว่างสกิลและอันดับของคุณ

นอกจากนี้ เราขอแนะนำอันดับใหม่ระหว่างแพลตตินัมและไดมอนด์ที่เรียกว่า "เอเมอรัลด์" เพื่อลดความคืบหน้าที่ห่างกันมากในการไต่อันดับที่อยู่สูงขึ้นไป

มาดูสัก 2-3 ตัวอย่างกัน:

ผู้เล่น A เป็นผู้เล่นแชมเปี้ยน (+5000 สกิล) ที่เพิ่งเริ่มเล่นในซีซั่นนี้ (อันดับคอปเปอร์ 5) เนื่องจากเราไม่ได้รีเซ็ตสกิลอีกต่อไป ผู้เล่นนี้จะถูกจับคู่แมตช์กับผู้เล่นที่มีทักษะเดียวกันตั้งแต่ต้นซีซั่น แต่เนื่องจากอันดับของเขาห่างไกลจากสกิลของเขามาก ทุกครั้งที่ผู้เล่นคนนี้ชนะการแข่งขัน เขาจะได้รับรางวัลเป็นคะแนนอันดับจำนวนมาก (ในช่วง Y7S4 จะอยู่ที่ประมาณ 80 RP ซึ่งเป็นค่าสูงสุด) เพื่อที่จะก้าวไปสู่อันดับที่แท้จริงได้อย่างรวดเร็ว ในทำนองเดียวกัน ทุกครั้งที่ผู้เล่นคนนี้แพ้การแข่งขัน คะแนนอันดับที่เขาเสียไปจะน้อยมาก (ในช่วง Y7S4 จะอยู่ที่ประมาณ -9 RP ซึ่งเป็นขั้นต่ำ) เนื่องจากอยู่ห่างจากอันดับจริงมาก สำหรับผู้เล่นรายนี้ ผลต่างของการได้/เสียนี้จะดำเนินต่อไปเช่นนี้สำหรับการไต่ระดับสู่อันดับจริง และควรเห็นการลดลงของการได้และการเพิ่มขึ้นของการเสียที่ประมาณอันดับไดมอนด์

ผู้เล่น B เป็นผู้เล่นระดับซิลเวอร์ (สกิล 2200) ที่เล่นในซีซั่นนี้มาระยะหนึ่งแล้ว และเขาสามารถไปถึงอันดับซิลเวอร์ II ได้ ตอนนี้ผู้เล่นนี้มีอันดับตรงกับสกิลของเขา ดังนั้น ทุกครั้งที่เขาชนะการแข่งขัน เขาจะได้รับ RP ด้วยจำนวนมาตรฐาน (ประมาณ 40 RP) และทุกครั้งที่แพ้ เขาจะเสีย RP ด้วยจำนวนมาตรฐาน (ประมาณ 30 RP) เรานำความแตกต่างระหว่างการชนะมาตรฐานและการแพ้มาตรฐานมาใช้ เพื่อให้ผู้เล่นพยายามมุ่งสู่อันดับที่สูงขึ้นและพัฒนาตลอดทั้งซีซั่น นี่ไม่ได้หมายความว่าผู้เล่นคนนี้จะได้รับอันดับฟรี เนื่องจากเราถือว่าผู้เล่นที่ไปถึงอันดับที่แท้จริงแล้วอาจจะมีอัตราการชนะประมาณ 50% แต่ถ้าผู้เล่นคนนี้เล่นต่อไปและพยายามที่จะชนะ พวกเขาก็อาจจะจบซีซั่นด้วยอันดับที่สูงกว่าจากซีซั่นที่แล้วและรับรางวัลมากขึ้น!

การเพิ่มอันดับ

เมื่อคุณได้รับ RP เพียงพอเมื่อจบการแข่งขัน คุณจะขึ้นสู่ดิวิชั่นถัดไป แต่ละดิวิชั่นประกอบด้วย 100RP

การลดอันดับและการป้องกันการปลดอันดับ

เมื่อแพ้การแข่งขันและผล RP ต่ำกว่า 0 โดยปกติคุณควรถูกลดอันดับลงไปอยู่ที่อันดับเดิมเดียวกับดิวิชั่นหรืออันดับก่อนหน้า แต่เราได้นำระบบใหม่ที่เรียกว่า Demotion Shield (การป้องกันการปลดอันดับ) มาใช้ ซึ่งจะป้องกันไม่ให้สิ่งนี้เกิดขึ้นและปล่อยให้คุณมี 0 RP แทน สิ่งนี้จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อคุณมี RP มากกว่า 0 ก่อนเริ่มการแข่งขัน หากคุณแพ้การแข่งขันเมื่อคุณมี 0 RP อยู่แล้ว คุณจะลดอันดับลงตามปกติ

ยกเลิกแมตช์กำหนดอันดับและการรีเซ็ตสกิล

ด้วยระบบใหม่นี้ เรากำลังนำแมตช์กำหนดอันดับออก เนื่องจากเราจะไม่รีเซ็ตสกิลของคุณในทุกซีซั่นอีกต่อไป และด้วยเหตุนี้ เราจึงไม่ต้องการให้พวกเขารู้สกิลของคุณเมื่อเริ่มต้นซีซั่นอีกต่อไป

แมตช์กำหนดอันดับไม่ทำงานตามที่ตั้งใจไว้ในเวอร์ชันก่อนหน้าของโหมดจัดอันดับ การรีเซ็ตสกิลบังคับให้เราต้องมีระบบเพื่อพยายามคาดคะเนสกิลที่แท้จริงของคุณก่อนที่จะเริ่มการเดินทางในอันดับของคุณ แต่สิ่งเหล่านี้มีความไม่เที่ยงตรงสำหรับจุดประสงค์นั้น เนื่องจากระบบมีเวลาไม่มากพอที่จะคาดคะเนได้อย่างแม่นยำ
ตัวอย่างเช่น ผู้เล่นที่เพิ่งเริ่มเล่นเกมจัดอันดับใน Rainbow Six: Siege อาจมีแมตช์กำหนดอันดับที่ดีมาก (ไม่ว่าจะด้วยสกิลของตนเอง โชค หรือโดยการ "อุ้ม" จากเพื่อนร่วมทีม) และระบบจะจัดให้ผู้เล่นคนนั้นอยู่เหนือสกิลที่แท้จริงของเขา ทำให้การจัดอันดับเป็นประสบการณ์ที่น่าผิดหวังมากที่ต้องเล่นกับผู้เล่นที่มีประสบการณ์มากกว่า หรือในทางกลับกัน ผู้เล่นที่มีทักษะสูงซึ่งโชคไม่ดีหรือมีการแข่งขันที่แย่มากในระหว่างแมตช์กำหนดอันดับอาจถูกวางให้อยู่ต่ำกว่าสกิลที่แท้จริงของพวกเขามากเกินไป ทำให้ต้องทำการแข่งขันที่แย่ ๆ จนกว่าจะถึงระดับสกิลที่แท้จริง

การยกเลิกการรีเซ็ตสกิลจะช่วยทำให้แน่ใจว่าคุณภาพของการจับคู่แมตช์ในเกมของคุณจะไม่ลดลงเมื่อเริ่มต้นซีซั่น เนื่องจากเราจะรู้ระดับสกิลของคุณแล้ว และคุณจะถูกจับคู่แมตช์กับคู่ต่อสู้ที่คล้าย ๆ กัน

สิ่งที่เราจะทำการรีเซ็ตคืออันดับของคุณในทุกซีซั่น และเมื่อเริ่มต้น ทุกคนจะถูกจัดอยู่ใน Copper 5 และไต่ขึ้นไปจากจุดนั้น

เล่นกับเพื่อน

จากนี้ไป เราจะยกเลิกข้อจำกัด MMR ของทีม ที่ขัดขวางไม่ให้คุณเล่นกับเพื่อน ๆ

ข้อจำกัด MMR ของทีม เป็นเหมือนปีศาจร้ายที่เราจำเป็นต้องวางไว้เพื่อป้องกันการใช้ประโยชน์บางอย่างในระบบ แต่เราทราบดีถึงความสำคัญของการที่สามารถเล่นกับเพื่อน ๆ ของคุณใน Rainbow Six: Siege ได้ การแยกระหว่างสกิลและอันดับตอนนี้ทำให้เรามีมาตรการต่าง ๆ ที่ทำงานเบื้องหลังรองรับการป้องกันการแสวงหาประโยชน์เหล่านั้น โดยไม่ลดทอนความสามารถในการเล่นกับเพื่อนของคุณ

เราเชื่อว่าระบบใหม่นี้จะทำให้ประสบการณ์ของทุกคนดีขึ้นมาก แต่เราจะติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากขณะนี้เรามีเครื่องมือที่จะดำเนินการหากพบว่ามีการละเมิดเกิดขึ้น

แล้วมันหมายความว่าอย่างไร?

โดยรวมแล้ว ประสบการณ์จัดอันดับของคุณในตอนนี้จะเป็นความคืบหน้าที่ต่อเนื่องมากขึ้นเพื่อไปสู่เป้าหมายของคุณ แต่คุณจะสังเกตเห็นว่ายิ่งอันดับของคุณเข้าใกล้สกิลที่แท้จริงของคุณมากเท่าไหร่ การอัปเดตที่คุณได้รับหลังจากการแข่งขันแต่ละครั้งจะน้อยลง

ด้วยองค์ประกอบของซีซั่นใน Rainbow Six: Siege เราเชื่อว่าระบบใหม่นี้จะช่วยให้ผู้เล่นบรรลุเป้าหมายได้อย่างน่าเชื่อถือมากขึ้น โดยที่ไม่รู้สึกว่ากำลังกระโดดจากอันดับหนึ่งไปยังอีกอันดับหนึ่งแต่ไม่มีความคืบหน้า

อะไรจะเกิดขึ้น?

ด้วยการเปลี่ยนแปลงชุดแรกนี้ที่จะมาถึงจัดอันดับ (Ranked) เราได้วางรากฐานเพื่อสร้างโครงสร้างการแข่งขันที่ยืดหยุ่นมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้เราปรับปรุงได้โดยไม่กระทบต่อสภาพแวดล้อมที่ดีในเกมที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เราจะเฝ้าติดตามจัดอันดับใหม่ในช่วง S4 เนื่องจากระบบที่มีขนาดใหญ่เช่นนี้ค่อนข้างยากที่จะทำงานได้อย่างดีตั้งแต่ครั้งแรกที่นำมาใช้โดยที่ยังไม่ผ่านประสบการณ์จริงจากผู้เล่น เรามีการทดลองใช้โดยจำลองสถานการณ์จริงแล้ว แต่ความเป็นจริงก็มักจะแตกต่างออกไปเสมอ และเรายินดีรับฟังความคิดเห็นของคุณ

ด้วยวิธีการที่ระบบถูกสร้าง เราสามารถปรับแต่งตัวเลขที่อยู่เบื้องหลังจัดอันดับได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องสร้างระบบใหม่ ดังนั้นเราคาดหวังว่าจะมีการปรับและการเปลี่ยนแปลงในซีซั่นที่จะมาถึงนี้!